Toyota U660E / U760E 6-Speed Automatic Transaxle Power flow
เทคนิคการเบื้องต้นในการขับรถเกียร์ธรรมดา
เทคนิคแรก : ทุกครั้งก่อนออกจากรถ ผู้ขับรถควรจะปลดเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่างพร้อมทั้งดึงเบรกมือค้างไว้ เพื่อป้องกันการหลงลืมเมื่อมีการไขกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งใหม่ เพราะเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยเกียร์ไม่ได้อยู่ ในตำแหน่งเกียร์ว่าง รถจะพุ่งไปข้างหน้า หรือถอยหลังอย่างฉับพลัน อันจะก่อให้เกิดอันตรายได้ สำหรับการ ปลดเกียร์ว่าง นอกจากจะปฏิบัติก่อนออกจากรถทุกครั้งแล้ว อาจปฏิบัติในขณะรถติดนาน ๆ ได้ด้วย โดยดึงเบรกมือ แทนการเหยียบเบรก และคลัทช์ค้างไว้ ช่วยพักเท้าคลายอาการเมื่อยล้าได้ด้วย
เทคนิคที่สอง : ควรเหยียบคลัทช์ทุกครั้งที่สตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อป้องกันการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ มาสู่ระบบ ขับเคลื่อน เพราะหากลืมปลดเกียร์มาที่ตำแหน่งเกียร์ว่าง การเหยียบคลัทช์จะทำให้รถไม่พุ่งไปข้างหน้าด้วยเช่นกัน
เทคนิคที่สาม : เลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมกับความเร็วของรถ และเปลี่ยนเกียร์ที่ความเร็วรอบของเครื่องยนต์ไม่ต่ำ หรือสูงเกินไป (2,000 ? 3,000 รอบ/นาที) จะทำให้การขับขี่นุ่มนวลยิ่งขึ้น และประหยัดน้ำมันอีกด้วย
เทคนิคที่สี่ : มือใหม่หัดขับ มักพยายามหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ต้องขึ้นสะพาน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ และต้องติดค้าง อยู่บนสะพาน ผู้ขับมือใหม่มักกังวลว่าจะทำอย่างไรดีเพื่อไม่ให้รถไหลไปชนคันหลัง วิธีง่าย ๆ ก็คือ ปลดเกียร์ว่าง พร้อมกับดึงเบรกมือ และเมื่อจะเคลื่อนตัวให้ผู้ขับเหยียบคลัชท์และเข้าเกียร์ 1 พร้อมที่จะออก แล้วเหยียบคันเร่งช้า ๆ พร้อมกับปลดเบรกมือ รถอาจจะไหลบ้างเล็กน้อยตามพื้นที่ลาดเอียง มือใหม่หัดขับไม่ต้องตกใจ ออกตัวรถไปตามปกติ
เทคนิคที่ห้า : หมั่นฝึกเปลี่ยนเกียร์ให้เกิดความชำนาญ โดยใช้ประสาทสัมผัสแทนการเหลือบมอง เพื่อป้องกัน การเกิดอุบัติเหตุ
เทคนิคที่หก : การชะลอรถ/หยุดรถ เมื่อขับมาด้วยความเร็ว ให้ค่อย ๆ แตะเบรก อย่าพึ่งเหยียบคลัทช์ เพื่อให้กำลัง ของเครื่องยนต์เป็นตัวช่วยชะลอรถ (ENGINE BRAKE) จากนั้น เมื่อรถใกล้จะหยุด ให้เหยียบคลัทช์ และเมื่อรถ หยุดสนิทให้ปลดเกียร์ว่าง พร้อมทั้งดึงเบรกมือเพื่อป้องกันรถไหล
ข้อควรระวังที่มือใหม่หัดขับไม่ควรจะละเลย นั่นคือ ไม่ควรวางเท้าไว้ที่แป้นคลัทช์ตลอดเวลา แม้จะไม่ได้เหยียบคลัทช์ก็ตาม เพื่อยืดอายุการใช้งานของลูกปืนคลัทช์ นอกจากนี้ ยังไม่ควรเลี้ยงคลัทช์เมื่อรถติดอยู่บนเนินหรือสะพาน เพราะจะทำให้คลัทช์ไหม้ หรือคลัทช์ลื่น และอายุการใช้งานของผ้าคลัทช์ก็จะสั้นลงด้วย
เทคนิคการเบื้องต้นในการขับรถเกียร์อัตโนมัติ
ทุกวันนี้รถยนต์โดยทั่วไปบนท้องถนน มักเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ เพราะให้ความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ ซึ่งจะต้องขับเคลื่อน และชะลอตัว หรือเบรกอยู่บ่อยครั้ง
ในการขับขี่รถยนต์เกียร์อัตโนมัตินั้น ผู้ขับขี่ควรจดจำตำแหน่ง และใช้เกียร์แต่ละเกียร์ได้ อย่างถูกต้อง แม่นยำ ซึ่งเกียร์อัตโนมัติแต่ละตำแหน่ง มีดังนี้
P หมายถึง PARKING เป็นตำแหน่งที่ใช้สำหรับจอดรถ และไม่ต้องการให้รถเคลื่อน โดยล้อรถจะถูกล็อกไว้ ไม่สามารถเข็นได้ เช่น ในการจอดบนทางลาดชัน เมื่อต้องการจอดรถทิ้งไว้ หลังจากเหยียบเบรกจนรถหยุดสนิทแล้ว อย่าเพิ่งปล่อยเบรก จับคันเกียร์กดปุ่มปลดล็อก แล้วโยกคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง P จากนั้นปล่อยเบรก แล้วดับเครื่องยนต์
R หมายถึง REVERSE เป็นเกียร์สำหรับการถอยหลัง เมื่อต้องการเข้าเกียร์ R จะต้องเหยียบเบรก ให้รถหยุดสนิท จากนั้นจับคันเกียร์กดปุ่มปลดล็อกแล้วโยกคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง R แล้วจึงปล่อยเบรก กดคันเร่ง ให้รถเคลื่อนตัวถอยหลัง
N หมายถึง NEUTRAL เป็นตำแหน่งเกียร์ว่างใช้เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์หรือต้องการจอดรถทิ้งไว้โดยที่ยังสามารถเข็นได้ หรือเมื่อจอดรถ อยู่กับที่ ในขณะเครื่องยนต์ยังคงทำงานอยู่ เช่น การจอดรถในสภาพการจราจรติดขัด หรือเมื่อติดไฟแดง
D4 หมายถึง เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ใช้ในการขับรถเดินหน้าในสภาพการขับขี่ทั่วไป เช่น การขับรถ ในตัวเมือง รวมทั้งการขับรถด้วยความเร็วสูง ซึ่งการทำงานของเกียร์ D4 จะเป็นไปในลักษณะ 4 สปีด คือ เกียร์ จะเปลี่ยน ขึ้นตามลำดับ จากเกียร์ 1 ไปเกียร์ 2 หรือจากเกียร์ 2 ไปเกียร์ 3 หรือจากเกียร์ 3 ไปเกียร์ 4 โดยอัตโนมัติ ตามสภาพการทำงานของเครื่องยนต์และความเร็วของรถ ยิ่งผู้ขับเหยียบคันเร่งมาก เกียร์ก็จะเปลี่ยนที่ความสูงขึ้น ตามไปด้วย
ในทางกลับกัน เมื่อลดความเร็ว เกียร์จะเปลี่ยนจากเกียร์ 4 ไปเกียร์ 3 หรือจากเกียร์ 3 ไปเกียร์ 2 หรือจากเกียร์ 2 ไปเกียร์ 1
D3 หมายถึง เกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด ใช้สำหรับขับรถขึ้นหรือลงเนิน เพื่อป้องกันมิให้เกียร์เปลี่ยนกลับไป กลับมาบ่อยๆ ระหว่างเกียร์ 3 และเกียร์ 4 นอกจากนี้ยังใช้สำหรับกรณีที่ต้องการ ให้เครื่องยนต์ช่วยเพิ่มกำลัง เบรกมากขึ้น
ในตำแหน่ง D4 และ D3 หากต้องการเร่งความเร็วอย่างทันทีทันใด เช่น ในเวลาที่ต้องเร่งแซงรถที่อยู่ข้างหน้า ผู้ขับขี่ สามารถใช้การ KICK DOWN เหยียบคันเร่งจมติดพื้น เกียร์จะเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ และทำให้รถพุ่ง ไปข้างหน้าเร็วขึ้น
2 หมายถึง เกียร์ 2 ใช้สำหรับการขับรถลงเขาเพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยเพิ่มกำลังเบรกมากขึ้น หรือการขับรถขึ้นเขา เพื่อเพิ่มกำลังขับเคลื่อน รวมทั้งการขับบนถนนลื่น และการขับขึ้นจากหล่มโคลนหรือทราย
1 หมายถึง เกียร์ 1 ใช้สำหรับการขับรถขึ้น-ลงเขาสูงชันมากๆ
การเลือกใช้งานของเกียร์อัตโนมัติแต่ละเกียร์ได้อย่างถูกต้อง นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอันตราย หรือ ความเสียหาย ต่อระบบขับเคลื่อนแล้ว ยังให้การขับขี่ที่นุ่มนวลอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.alairodyont.com
Basic techniques of driving a manual transmission car.
The first technique: Each time before leaving the car. The driver should be in a position to disconnect the transmission gear and to pull the hand brake and hold. To prevent forgetting to unlock when the engine re-start. Because, when starting the engine. The gear is not. Gear position. Car will surge forward. Or down abruptly This will be dangerous for the release gear. In addition to practice before all times, and then out of the car. May practice as long traffic jam by hand by pulling the brake. Instead of the brake pedal. And the clutch and hold. Help relieve symptoms stay on your feet with fatigue.
The second technique: Keep the clutch pedal to start the engine every time. To prevent the transmission from the engine to the drive system, because if you forget to disconnect the transmission gear position. The clutch pedal car will not jump ahead too.
The third technique: choosing the right gear with the speed of the car. And the shifting speed of the engine no less. Or too high (2000? 3000 rpm) to make driving more gently. And fuel economy as well.
Four techniques: Beginners learn to drive Usually try to avoid the path to the bridge. However, if unavoidable. And be stuck on the bridge novice drivers tend to worry about how best to prevent flow to the vehicle after vehicle hit an easier way is to simply disconnect the gear. Ready to pull the hand brake. And when it moves to the driver stepped on the clutch and gears out a ready to leave. Then slowly, with the throttle hand brake release. Shopping may be flowing a little slope areas. Beginners learn to drive worry. Out of the vehicle as usual.
The five techniques: Always practice the skills to change gears. Instead of using sensory glance to prevent accidents.
Six techniques: a slow car / bus stop. When driving with the speed brake slowly, do not just tap the clutch pedal. To power The delay of a car engine (ENGINE BRAKE), and then when the car is almost stopped. The clutch pedal and the car stopped close to the release gear. Pull the hand brake as well as to protect vehicle flow.
Cautions that novice drivers should learn to ignore it is not the key to put the foot clutch all the time. Despite not even stepped on the clutch. To extend the useful life of the clutch bearings are also not raising the clutch when the car is stuck on a hill or bridge. It will make the clutch burning. Or clutch slip And lifetime of the fabric clutch, it will be shorter with
The basic technique for driving automatic transmission.
In general, today's cars on the road. Vehicles are often driven by automatic transmission. It provides the convenience of driving. Especially the traffic jams in Bangkok. Which will be powered and slow or brake frequently.
In driving the automatic transmission. Drivers should remember position And each transmission gear is precisely the automatic transmission for each position are as follows.
PARKING P means a position that is used for parking. And do not want the car drove. The wheels are locked. Can not, such as in a cart parked on the ramp slope. To leave the car park. After the brake pedal until the car shut off. Do not release the brake. Car gear handle press unlock. Country and rock gear to position P, then release the brakes. Then stop the engine.
R refers to the REVERSE gear for reversing To gain access to gear R will have to brake pedal. Close to bus stop. Then press the gear handle cars unlocked cars rocking gear to the R position and then release the brake, press the accelerator the car moves backward.
N refers to a NEUTRAL gear position when starting the engine or to leave the car park while being able to Cart. Or when parking on the spot while the engine still running, such as parking in a traffic jam. Or on fire red
D4 refers to the 4-speed automatic transmission used in driving forward the general driving conditions such as driving in the city, including driving at high speed. The work of gear D4 will be in style 4 speed is the gear to change the level of gear one to gear 2 or the gear 2 to gear 3 or the gear 3 to gear 4 automatically based on the working conditions of the engine. and the speed of the car. The driver stepped on the accelerator a lot more. Transmission will shift at higher as well.
On the other hand, when the reduced speed Transmission to shift from gear 4 to gear 3 or the gear 3 to gear 2 or the second gear to first gear.
D3 means three-speed automatic transmission for driving up and down the hill. In order to prevent transmission to change gear to come back more often between the third and fourth gears are also used if needed. To help increase engine braking more.
D3 and D4 in the position to accelerate suddenly, such as the time required to accelerate the passing car in front of the driver can use a KICK DOWN throttle stick floor sink. Change gears automatically. And the car jump. Forward faster.
2 for gears 2 for driving down the hill to help increase engine braking more. Or driving uphill. To driving. As well as driving on slippery roads. And venting from mud or sand puddle.
A first gear means for driving up - a very steep hill.
The use of the automatic transmission, each gear properly. In addition to helping prevent injury or damage to the drive then. To provide smooth driving as well.
Thanks for the information. http://www.alairodyont.com.
Labels:
comment closed